ขนส่งไหนใช้ดี? รวม 3 ตัวท็อปจากญี่ปุ่น คนไทยเลือกซ้ำ!

ขนส่งไหนใช้ดี? รวม 3 ตัวท็อปจากญี่ปุ่น คนไทยเลือกซ้ำ!

ทำไมการเลือกขนส่งจากญี่ปุ่นถึงสำคัญ?
แม้การขนส่งจะเป็น "ขั้นตอนสุดท้าย" ของการสั่งของจากญี่ปุ่น แต่จริง ๆ แล้วเป็นจุดที่มีผลต่อความปลอดภัย ต้นทุน และความน่าเชื่อถือของร้านหรือผู้ขายโดยตรง

• หากขนส่งช้า สินค้าเสียหาย หรือไม่มีระบบติดตามที่ดี อาจทำให้ลูกค้าเสียความเชื่อมั่น
• โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าที่ใช้ The Flash Preorder การเลือกขนส่งที่เหมาะสมจะช่วยรักษาคุณภาพสินค้า คุมต้นทุน และสร้างความพรีเมียมให้ร้านค้า

แนะนำ 3 ขนส่งจากญี่ปุ่นที่คนไทยเลือกซ้ำ

1. Japan Post (JP Post)
Japan Post หรือไปรษณีย์ญี่ปุ่น เป็นขนส่งสาธารณะอันดับหนึ่งในญี่ปุ่นที่คนญี่ปุ่นและต่างชาติไว้ใจที่สุด

ข้อดีจริง

• ครอบคลุมทั่วประเทศ ตั้งแต่เกาะหลักจนถึงเมืองเล็ก ๆ
• มีหลายตัวเลือก:
  - EMS สำหรับของด่วน (3 – 5 วันถึงไทย)
  - Airmail สำหรับของปานกลาง เร็วคุ้ม
  - Surface สำหรับของหนัก ไม่รีบ ประหยัด
• Tracking Online ตรวจสอบสถานะได้ละเอียด
• เจ้าหน้าที่เชี่ยวชาญเรื่องเอกสารส่งออก ช่วยกรอกฟอร์ม CN22/CN23 ให้ด้วย

สิ่งที่ต้องรู้

• ช่วงเทศกาล เช่น ปีใหม่ โกลเด้นวีค คิวอาจยาว ต้องเผื่อเวลา
  
• EMS แพง แต่คุ้มถ้าต้องการความเร็ว
• Airmail เป็นที่นิยมที่สุด เพราะราคากลาง ๆ แต่ใช้เวลาไม่นาน

เหมาะกับ:
ผู้ที่ต้องการความมั่นใจสูง ร้านค้าที่เน้นจำนวน หรือส่งของฝากกลับไทย

ลิงก์ : ตรวจสอบพัสดุ Japan Post

2. Yamato Transport (Kuroneko Yamato)
Kuroneko Yamato หรือที่เรารู้จักในชื่อ "แมวดำ" เป็นขนส่งเอกชนที่ได้รับความนิยมสูงสุดในญี่ปุ่น โดยเฉพาะสายพรีเมียม

ข้อดีจริง

• มีบริการ TA-Q-BIN ที่สามารถกำหนดวัน เวลา รับ-ส่งได้เอง
  
• Drop-off ได้ตามร้านสะดวกซื้อ เช่น 7-Eleven, FamilyMart
  
• พนักงานให้บริการแบบ premium ดูแลสินค้าเหมือนเป็นของตัวเอง
  
• แจ้งเตือนทุกขั้นตอน ทั้ง SMS และ email

สิ่งที่ต้องรู้

• ราคาสูงกว่าบริษัทอื่น แต่จ่ายเพื่อความสบายใจ
• ของขนาดใหญ่หรือหนักมากจะมีข้อจำกัด ต้องตรวจสอบก่อน
• เหมาะกับสินค้ามีมูลค่าสูง เช่น นาฬิกา แบรนด์เนม ฟิกเกอร์ลิมิเต็ด

เหมาะกับ:
พ่อค้าแม่ค้าที่ขายสินค้าพรีเมียม หรือนักช้อปที่อยากได้การดูแลแบบพิเศษ

ลิงก์ : ตรวจสอบพัสดุ Kuroneko Yamato

3️. Sagawa Express
Sagawa Express เป็นบริษัทที่เน้นสินค้าชิ้นใหญ่และล็อตใหญ่ ใช้กันมากในกลุ่มธุรกิจ E-Commerce และผู้ขายมืออาชีพ

ข้อดีจริง

• การจัดการ Logistic แข็งแรง มีบริการ "Hikyaku Express" ส่งด่วนมาก
  
• มีบริการคลังเก็บ ช่วยจัดการ แพ็ก และกระจายสินค้า
  
• ทีมงานช่วยคำนวณต้นทุนและวางแผนการส่งได้ละเอียด
  
• สามารถนัดรับสินค้าถึงบ้านได้ ถ้าส่งล็อตใหญ่

สิ่งที่ต้องรู้

• ถ้าเป็นสินค้าชิ้นเล็ก อาจไม่คุ้ม เพราะเน้นปริมาณมาก
  
• จุดรับฝากในบางจังหวัดชนบทอาจน้อยกว่าบริษัทอื่น
  
• เหมาะกับคนที่คุมต้นทุนเป็นระบบ และมีสินค้าปริมาณมาก

เหมาะกับ:
พ่อค้าแม่ค้า E-Commerce ที่ต้องการส่งหลายชิ้นพร้อมกัน หรือสินค้าชิ้นใหญ่ เช่น เฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้าน

ลิงก์ : ตรวจสอบพัสดุ Sagawa

เทคนิคเลือกขนส่งให้คุ้มค่า สำหรับสายสั่งของจากญี่ปุ่น

เลือกตามประเภทสินค้า

• ของชิ้นเล็ก/น้ำหนักเบา: JP Post (EMS หรือ Airmail)
• ของมีมูลค่าสูง/ต้องการความปลอดภัย: Kuroneko Yamato
• ของหนัก/ล็อตใหญ่: Sagawa Express

• ตรวจสอบกฎศุลกากรไทย และคำนวณภาษีนำเข้า
• อ่านรีวิวผู้ใช้จริงจากหลายแหล่ง
  
• ทำประกันถ้าสินค้ามีมูลค่าสูง

ถ้าใช้ The Flash Preorder ทีมงานจะช่วยแนะนำวิธีเลือกขนส่งให้เหมาะสม และรวมพัสดุ ลดต้นทุน พร้อมจัดการเอกสารครบ จบในที่เดียว

ทำไมต้องสั่งของจากญี่ปุ่น?
สินค้าญี่ปุ่นโดดเด่นในเรื่องคุณภาพ การออกแบบ และความใส่ใจในรายละเอียด ทั้งสินค้าแฟชั่น ของสะสม เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือของแต่งบ้าน ทำให้การ สั่งของจากญี่ปุ่น, พรีออเดอร์ญี่ปุ่น, และ ชิปปิ้งญี่ปุ่น ได้รับความนิยมมากขึ้นในไทย

การเลือกขนส่งที่เหมาะสม ช่วยรักษาคุณภาพสินค้า และสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าเห็นว่าร้านของคุณใส่ใจทุกขั้นตอนจริง ๆ

สรุป
การเลือกขนส่งไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่เป็นจุดสำคัญที่ช่วยเสริมความเป็นมืออาชีพ และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้จริง ๆ

• ถ้าเน้นครอบคลุมและเชื่อถือได้ → Japan Post
• ถ้าเน้นความปลอดภัยและพรีเมียม → Kuroneko Yamato
• ถ้าส่งล็อตใหญ่และต้องการ Logistic แข็งแรง → Sagawa Express